ตลาดอสังหาเงียบเหงา เปิดใหม่วูบ รอลดดอกเบี้ย ‘คอนโดหรู’ไซซ์ใหญ่ฮอต ต่างชาติซื้อเป็นบ้านหลัง2
น.ส.รุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในช่วงต้นปีการซื้อขายจะค่อนข้างเงียบ มีแนวโน้มจะคึกคักมากขึ้นในครึ่งหลังของปี และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จีดีพีที่อ่อนแอเป็นปัจจัยลบต่อภาคที่อยู่อาศัย แม้ผู้พัฒนาโครงการหลายรายประกาศแผนเพิ่มการเปิดตัวบ้านและคอนโดมิเนียมในปี 2566 แต่ใช้เวลาประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยทางเศรษฐกิจเชิงลบทั้งในประเทศและทั่วโลกต่อความสนใจการซื้อที่อยู่อาศัย แสดงถึงกิจกรรมที่ชะลอตัวมากขึ้น มีการเปิดตัวโครงการน้อยลง เมื่อเทียบกับปี 2565
น.ส.รุ่งรัตน์กล่าวว่า สำหรับตลาดที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ เติบโตเต็มที่และแข่งขันสูง ผู้พัฒนาโครงการต้อง ปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มตลาด โดยต้นปีนี้มีแนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองจะมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นในกลุ่มลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ที่หลายโครงการจะมีจำนวนต่ำกว่า 100 ยูนิต และเน้นยูนิตใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้ออยู่อาศัยเองและเป็นบ้านหลังที่สองสำหรับผู้ซื้อชาวต่างชาติ แม้คาดว่าการเปิดตัวคอนโดมิเนียมกลางเมืองจะสูงกว่าปี 2566 แต่ผู้พัฒนาโครงการยังไม่เปิดตัวจนกว่าจะได้รับความเชื่อมั่นเพียงพอจากแคมเปญการตลาด และเลื่อนเปิดช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนแนวราบคึกคักมาก 2 ปีที่ผ่านมาจากดีมานด์สะสม ดีมานด์ใหม่ คาดปีนี้มีเปิดตัวน้อยลง เพราะซัพพลายที่เพิ่มขึ้นและธนาคารที่เข้มงวดการให้สินเชื่อมากขึ้นทั้งสินเชื่อโครงการและรายย่อย โดยแนวโน้มจะเน้นตลาดระดับบน 15-30 ล้านบาท ที่มีดีมานด์แท้จริง
น.ส.อาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า คาดการณ์ครึ่งปีแรกจะมีเปิดตัวโครงการน้อยลง หวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ทำให้มีความเชื่อมั่นมากขึ้นและอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ลดลง นำไปสู่การเปิดตัวโครงการที่เพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมมือสองจะได้รับความสนใจสำหรับยูนิตใหญ่ และยูนิตใหม่ตกแต่งพร้อมอยู่
นายบานาบี้ สเวนสัน หัวหน้าแผนกการลงทุนและที่ดิน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า กรุงเทพฯยังคงดึงดูดต่างชาติเข้ามาลงทุน โดยผู้พัฒนาโครงการในประเทศหลายราย มีแผนพัฒนามิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ด้วยต้นทุนเงินกู้ยืมในประเทศที่สูง ธนาคารเข้มงวดปล่อยกู้ ทำให้การเข้ามาลงทุนจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่น่าจูงใจ เพราะภาษีที่ดินสูงขึ้น เจ้าของที่ดินมีแนวโน้มร่วมมือกับนักพัฒนาโครงการหรือทำสัญญาเช่าระยะยาว คาดปีนี้จะมีซื้อขายที่ดิน การร่วมทุนเพิ่มมากขึ้น
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด(AREA) กล่าวว่าภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลในเดือนมกราคม 2567 ในแง่จำนวนโครงการเปิดขายใหม่หดตัวลง หลังจากที่ได้ทยอยเปิดตัวโครงการไปแล้วในไตรมาส 4 ของปี 2566 ทำให้มีโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 19 โครงการ ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 จำนวน 11 โครงการ ซึ่งลดลงทั้งจำนวนหน่วยขาย และมูลค่าโครงการ
โดยมีจำนวนเปิดใหม่ 3,760 หน่วย ลดลง 1,687 หน่วย จากเดือนธันวาคม 2566 มี 5,447 หน่วย หรือลดลง 31% เนื่องจากการเปิดขายเดือนมกราคมนี้ ส่วนใหญ่ 52% ของจำนวนหน่วยขายเป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์ และเป็นโครงการขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ที่มีจำนวนหน่วยขายเฉลี่ยต่อโครงการไม่สูงมากนัก จึงทำให้เดือนมกราคมนี้มีจำนวนอุปทานหน่วยขายลดลง
ส่วนมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่ารวม 19,245 ล้านบาท ลดลง 29,423 ล้านบาท จากเดือนธันวาคม 2566 มีมูลค่า 48,668 ล้านบาท หรือลดลง 60.5%